วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

NC ฟิคแก้บน #คุณแจบอมใจร้าย






                สิ่งที่ยากที่สุดในตอนนี้อิม แจบอมคิดว่าคือการละสายตาออกจากร่างบางในชุดพนักงานเสิร์ฟพอดีตัว มันจะดูธรรมดามากถ้าหากร่างกายบางไม่นอนบิดเร้าไปมาแล้วพยายามจะแกะกระดุมเสื้อตัวเองออก เขาต้องใช้สมาธิและความอดทนขนาดไหนที่พาเราทั้งคู่มาจนถึงคอนโดส่วนตัวได้โดยไม่จอดปล้ำปาร์ค จินยองกลางทาง เพราะงั้นช่วยนับถือและชื่นชมความอดทนกันด้วย ร่างสูงโน้มตัวลงเอื้อมมือหนาสะกิดกระดุมเสื้อเชิร์ตสีขาวเบาๆ ไม่นานก็เผยความขาวเนียนของแผ่นอกบางที่นอนล่อตาอย่างไม่รู้ตัว จินยองรู้สึกว่าผิวเนื้อตัวเองกระทบกับความเย็นทำให้ร่างกายบิดเร้าดิ้นหาความอบอุ่น แจบอมไม่รอช้าที่จะปดเปลื้องอาภรณ์ทุกส่วนทั้งบนร่างกายตัวเองและร่างกายบางที่ถวิลหาความอบอุ่นเต็มทีไม่รู้เลย...ไม่รู้เลยว่าอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้าจะได้รับความอบอุ่นไปถึงภายใน
                แจบอมนอนลงทาบทับร่างกายตัวเองบนร่างกายบาง ในตอนนี้เขาแทบไม่อยากละสายตาจากใบหน้าหวานที่ตอนหลับตาทำเสียงอื้ออึงอยู่ในลำคอริมฝีปากอิ่มเบะคว่ำคงรู้สึกอึดอัดไม่น้อยที่มีแรงทิ้งตัวเองมาทับตนแบบนี้ ใบหน้าดุฝังจมูกลงบริเวณซอกคอขาวสูดดมความหอมของกลิ่นเนื้อเนียน ซึ่งแจบอมอยากจะสัมผัสมันทุกตางรางนิ้วบนตัวปาร์ค จินยอง ทักทายกับทุกอณูขุมขนที่ตอนนี้ลุกชันเพราะสัมผัสแปลกใหม่ที่เพิ่งเคยได้รับ ใบหูน่ารักแดงกล่ำไม่รู้เพราะว่าฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือสัมผัสของแจบอมแต่นั่นก็ทำให้คนที่อยากครอบครองทุกสิ่งบนตัวปาร์คจินยองอย่างเขาอดเข้าไปหยอกล้อกันมันไม่ได้เลย
                เสียงอื้ออึงในลำคอคล้ายคนรำคาญเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นเสียงหวานกระเส่าโดยไม่รู้ตัว จินยองอาจะคิดว่าตัวเองกึ่งฝันกึ่งความเป็นจริงอยู่ มันหนักอึ้งที่ศีรษะแต่ก็เบาหวิวบริเวณถูกสัมผัสแจบอมลากลิ้นไปตามแผ่นอกขาวเนียนแทบทุกตารางนิ้วบนตัวปาร์คจินยองถูกครอบครองไปหมดเพิ่มการแต่งแต้มด้วยรอยสีจางดูน่ามองและเป็นการตีตราว่าคนๆนี้คือของเขา แม้ริมฝีปากหนาและมือทั้งสองทำหน้าที่ของมันปลุกปั่นอารมณ์คนเมาอย่างไม่หยุด แต่สายตาเรียวดุกลับไม่อาจละจากใบหน้าหวานสมบูรณ์แบบที่กำลังมีความสุขกับสิ่งแปลกใหม่จนเผลอกัดริมฝีปากล่างโดยไม่รู้ตัว ซึ่งคนรักษาของอย่างแจบอมก็ไม่อาจจะยอมได้ ไม่ยอมให้ริมฝีปากฉ่ำนั่นช้ำเด็ดขาด นิ้วชี้และกลางข้างซ้ายยกขึ้นสอดใส่เข้าไปในริมฝีปากอิ่มทำให้จินยองเลิกกัดริมฝีปากล่างแต่ขบกันนิ้วมือของอิมแจบอมเบาๆเป็นระยะ แจบอมลากลิ้นลงมาตรงจุดรวมเส้นประสาททั้งสองข้างก่อนหยอกล้อกับมันจนชูชันสู้ริมฝีปากขึ้นมา  มันช่างหอมหวานจนแทบอยากกลืนกินทุกสิ่งอย่างบนร่างกายบวกกับเสียงครางหวานกระเส่าที่เคล้าคลอกับเสียงสูดน้ำลาย นี่ปาร์ค จินยองกำลังทดสอบความอดทนของอิม แจบอมคนนี้อยู่หรือไงกัน
                “อือ...อะ” ทันทีที่ริมฝีปากผละออกจากจุดนั้น  แจบอมลากลิ้นลงมาเรื่อยๆจนถึงหน้าท้องขาวแบนราบหยอกล้อกับไรขนอ่อนใต้สะดือเลื่อนลงมาตรงจุดสำคัญ มือหนาจับขาขาวเรียวอ้าแบะออกกว้างมองเห็นวิวสวยงามตรงหน้ามุมปากก็พลันกระตุกขึ้นอย่างพอใจ มือหนาลูบเบาๆบนผิวไวต่อการสัมผัส และแค่เพียงมืออุ่นร้อนของแจบอมแนบลงแค่นั้นจินยองหลุดเสียงหวานในลำคอออกมาทันที แจบอมมองใบหน้าหวานที่ค่อยๆปรือตามองเขาเล็กน้อย ขมวดคิ้วมองไปรอบๆด้วยความงุนงง
                “......” แจบอมนิ่งเงียบกับท่าทีน่ารักของคนเมา ส่วนจินยองได้แต่เพ่งสายตามองใครอีกคนที่อยู่ในสภาพเปลือยแบบเดียวกัน แจบอมไม่ยอมปล่อยเวลาให้ว่าง เขาลูบไล้แกนกายคนตัวบางกอบกุมมันอยู่ในมือหนาแล้วขยับขึ้นลงตามจังหวะ
                “อ๊ะ..ยะ อย่า อย่าทำ...อึก...” จินยองกำลังต่อสู้กับความรู้สึกผิดชอบชั่วดี และแรงอารมณ์ปรารถนาที่ได้สัมผัส ริมฝีปากบางกัดริมฝีปากล่างของตัวเองกลั้นเสียงน่าอายอีกครั้งมือบางพยายามยกมือที่ไร้เรี่ยวแรงปัดลำแขนแกร่งให้พ้นตัว แต่ดูเหมือนว่ามันจะดูเปล่าประโยชน์ไปเสียหน่อย เมื่อแจบอมค่อยๆเพิ่มแรงขยับมากขึ้นมือไม้ของจินยองก็เปลี่ยนเป็นหาที่ยึดเกาะแทนในตอนนี้ก็คือผ้าปูที่นอนที่ถูกขยำจนย่น “อะ...อ้า!!!” เสียงหวานร้องออกมาสุดเสียงพร้อมกับปล่อยคราบความปรารถนาออกมา ร่างกายสั่นเทิ้มเหนื่อยอ่อนเหลือเกินแต่แจบอมก็ยังไม่หยุด น้ำสีขาวขุ่นเปรอะเปื้อนเต็มมือหนาและมันถูกย้ายที่ไปยังช่องทางรักใกล้ๆเพื่อทำการสร้างความคุ้นชิน
                “ฮึ่ม!” ทันทีที่นิ้วหนึ่งเข้าไปในช่องทางแจบอมครางเสียงต่ำออกมาด้วยความกำหนัด เมื่อช่องทางรักคับแคบบีบรัดนิ้วของเขาเสียจนเลือดแทบไม่เดิน
                “อื้อ อย่า เจ็บ ผมเจ็บ” จินยองไม่สามารถยกศีรษะขึ้นมาได้แต่ใช้มือดันปัดป่ายกระเสือกกระสนถอยหนี แต่ก็ต้องหยุดทุกอย่างเอาไว้ ร่างกายเหมือนโดนสะกดให้หยุดเมื่อแจบอมเพิ่มนิ้วเข้ามาในตัวของจินยองอีกหนึ่งเป็นสองและสาม “อึก...เจ็บ...ฮือ”
                “จินยอง ทนหน่อย” นี่มันยังไม่ใช่ของจริงเลยด้วยซ้ำแต่ร่างบางกลับทำท่าทีว่าจะไม่ไหวเสียแล้ว แต่มาถึงขั้นนี้หากหยุดกลางคันมันคงไม่ใช่อิมแจบอมแน่ มือหนาขยับนิ้วไปมาควานไปรอบๆเพื่อสร้างความคุ้นชินนานพอสมควรกับความอดทนที่มีหมดลงแจบอมย้ายสะโพกตัวเองประกบแนบแน่นกับก้มกลมก่อนจะค่อยแทรกความใหญ่โตเข้ามาภายใน
                “อือ...อ้า!!!!!!! อย่านะครับ...ฮึก เจ็บ อย่าๆ” เสียงจินยองร้องห้ามด้วยความน่าสงสารหากเป็นในตอนอื่นเขาคงจะยอมอนุโลมให้ได้บางแต่ ณ ตอนนี้ที่อดทนกันมาจนถึงขนาดนี้มันก็มากพอแล้วสำหรับอิมแจบอม แจบอมกดสะโพกตัวเองเข้าไปเรื่อยๆและลากยาวทำท่าจะถอยห่างแต่ไม่นานก็สวนสะโพกเข้ามาในทีเดียวจนสุดลำ จินยองพูดไม่ออกกับความเจ็บจุกที่ได้รับ ร่างบางเริ่มได้สติขึ้นมาบ้างแล้วและได้รู้แล้วว่าตอนนี้ตัวเองกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่หลีกหนีไม่ได้อีกต่อไป “คุณ...แจบอม”
                น้ำเสียงแผ่วเบาที่เรียกชื่อเขาทำเส้นอดทนบางๆเส้นสุดท้ายขาดสะบั้นแจบอมโน้มตัวลง กดยกสะโพกตัวเองขึ้นอยู่แบบนั้นจนสามารถขยับได้ ใบหน้าเรียวดุกัดฟันแน่นกับความคับแคบจนแทบหายใจไม่ออกที่ตนกำลังเผชิญ
                “อ้า” ดูเหมือนว่าเขาจะเจอจุดนั้นแล้ว จุดที่ทำให้จินยองหลุดเสียงเบาหวิวออกมามาเมื่อครู่ ไม่รอช้าแจบอมขยับสะโพกกดจุดนั้นภายในจนจินยองต้องพามือทั้งสองข้างของตัวเองจิกขยำผ้าปูที่นอนอีกครั้ง จากความเจ็บปวดที่มีค่อยๆสอดแทรกด้วยสัมผัสใหม่ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน จินยองกำลัง...กำลังรู้สึกดี
                มือหนากอบกุมแกนกายบางอีกครั้งขยับขึ้นลงไปพร้อมกับการกระทั้นตัวเองเข้ามาในตัว ร่างน้อยๆสั่นสะเทือนตามแรงได้แต่นอนหอบปล่อยเสียงน่ารักที่ฟังแล้วมีแต่จะทำให้อารมณ์พลุ่งพล่านขึ้นมาอีกระลอก
                “จินยอง มองหน้าฉัน” แจบอมสั่งจินยองที่เอาแต่หลับตาปี๋ ให้ลืมตาขึ้นซึ่งจินยองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเยี่ยม “เรียกชื่อฉัน”
                “......”
                “จินยอง! ฮึ่ม!” เสียงครางต่ำในลำคอของแจบอมบ่งบอกความต้องการที่ใกล้ปลดปล่อย สะโพกขยับถี่และแรงขึ้นจนร่างน้อยๆโดนเขย่าสั่นไปด้วย
                “คะ คุณแจบอม ฮึก..อือ ฮา...คุณแจบอม อะ อา”
                “จินยอง...อา!!!” สุดท้ายก็ไม่สามารถกลั้นความคับแคบที่บีบรัดตัวเขาอยู่ได้ แจบอมปลดปล่อยน้ำรักเข้าในช่องทางรักอย่างเต็มที่ แต่คิดว่ามันจะจบแค่นี้หรือ? ไม่เลย...มันแค่เป็นจุดเริ่มต้นของจริงมันจะเริ่มตั้งแต่วินาทีนี้ต่างหาก....

_____________#คุณแจบอมใจร้าย____________







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น